วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

วิธีกำจัดความเหงา

1. ทำสิ่งที่บันเทิงใจ
เรา มักจะมีงานอดิเรกไม่เหมือนกันโดยเฉพาะตัวผม  ทุกเช้าประมาณ 7 โมงเช้าผมจะตื่นขึ่นมาพร้อมกับชงกาแฟร้อนๆแก้วนึง  แล้ว จะนั่งจิบไปดูปลาหางนกยูงหลากสีที่เลี้ยงอยู่ในอ่างกระเบื้อง ผมซื้อมา 3-4 คู่  ปัจจุบันมันออกลูกหลานประมาณ 50 ตัว  จากนั้นกาแฟเริ่มหมดแก้วผมก็เริ่มเอาสายยางฉีดน้ำต้นไม้  ผมเห็นความเจริญเติบโตของมันจากเมื่อก่อนต้นเล็กๆวันนี้มันโตขึ้นและผมก็ ให้อาหารปลา เสร็จสรรพเรียบร้อย  ผมก็อาบน้ำและไปส่งภรรยาต่อรถไฟฟ้าไปทำงานแล้วกลับมาอ่านหนังสือและเฝ้า เดี่ยว

2.   สร้างความตื่นเต้นดีใจแก่ตนเอง
ผม จะตื่นเต้นดีใจเมื่อใกล้ค่ำเพราะรู้ว่าเวลาพักผ่อนและเวลานอนมาถึงแล้วเพราะ การนอนพระเจ้าเป็นผู้ประทานให้และคาดหวังว่าพระองค์จะตรัสกับผมทางความฝัน  ผมชอบเขียนบทความที่เป็นการกลั่นกรองประสบการณ์การรับใช้ที่ยาวนาน  อยากจะเขียนแบ่งปันให้รุ่นน้องๆได้อ่าน  ผมจึงจะตื่นเต้นเมื่อลืมตาขึ้นมายามเช้าเพราะผมจะได้สร้างสรรค์กับงานใหม่ๆ  ผมชอบที่จะรับใช้เพราะมันเป็นความอัศจรรย์ที่เกินความคาดคิดที่พระองค์ทรง ทำ  ผมมักชอบทำสิ่งใหม่ๆเพราะมันลับสมองและท้าทายความเพียรพยายามและเห็นจนกว่า ความสำเร็จมาถึง  ผมชอบอะไรที่เป็นสิ่งไหม่ๆที่ท้าทายที่จะทำและสนุกกับมันเพราะมันทำให้ผม กระตือรือล้นเพราะมีอะไรใหม่ๆให้ท้าทายได้ตลอดและกำจัดความเหงาไปได้ดี

3.   
ทำอย่างเต็มที่
ทำไม เราจึงเหงา?  ก็เพราะเราไม่ทำงานของเราเต็มที่  เราไม่เห็นถึงความสำเร็จ  เราไม่เชื่อว่าสิ่งที่เรากำลังทำนั้นมีค่าแต่อย่าลืมว่า ทุกอย่างในชีวิตมันมีผลต่ออนาคตหมดเลยครับ  เหมือนคนก่อปราสาทราชวังมันต้องเริ่มจากอิฐก้อนที่หนึ่งก้อนเดียวเพราะหาก คนสร้างปราสาทเขาไม่ท้อตั้งแต่การก่ออิฐก้อนแรกเพราะเขารู้ว่าเขากำลังจะ สร้างปราสาทราชวังแต่หากเขาไม่รู้ก่อทำไมแค่กำแพงก็ไม่สำเร็จครับ
4.   ดูแลและรักตัวเอง
หาก ท่านไม่อยากเหงา  จงหางานอดิเรกที่ตัวเองชอบหรืออาจสะสมบางสิ่งเช่น ปลาหรือต้นไม้ราคาถูก  ผมชอบสะสมหูฟังครับ  มีมากมาย  ค่อยๆเก็บเงินซื้อ  ก็ใจรักแต่ก็ซื้อในราคาที่ตัวเองสู้ไหว
5.   ทักทายเพื่อนๆน้องๆรอบข้างที่ดีกับเรา
คิด ถึงเขาก่อนแล้วพวกเขาจะคิดถึงท่าน  อย่าเป็นคนที่รอให้คนอื่นต้องทักต้องโทรเข้าหาท่านก่อนแบบนี้แหละ  ท่านก็จะพบความเหงาได้ง่ายเพราะท่านจะได้รับอย่างที่ท่านได้หว่านออกไป
 ขอขอบคุณ บทความดีๆ ของ อาจารย์เจริญ ยธิกุล จาก http://www.james7.info/